วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2561

โครงการการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในชุมชน แอโรบิคชุมชนโนนสูง จังหวัดอุดรธานี



โครงการการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในชุมชน
แอโรบิคชุมชนโนนสูง จังหวัดอุดรธานี
>>>โครงการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในชุมชนโนนสูงเป็นโครงการที่จัดทำขึ้นมาให้กับชุมชนโนนสูงเกือบ 2 ปีแล้ว การเต้นแอโรบิคจัดขึ้นที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโนนสูงทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17:00 น.-18:00 น. เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
>>>คุณสุภาพร นครไทย อายุ 45 ปี หนึ่งในผู้นำเต้นแอโรบิค กล่าวว่า แต่เดิมตนเป็นบุคคลที่รักสุขภาพและการออกกำลังอยู่แล้ว จึงชักชวนเพื่อนหรือคนในชุมชนมาออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิค แต่เดิมสถานที่ใช้ในการเต้นแอโรบิคคือลานจอดรถตลาดเทศบาลโนนสูง ต่อมาเจ้าหน้าที่เทศบาลโนนสูงได้มาพบเห็นกิจกรรมในครั้งนั้น จึงจัดทำเป็นโครงการส่งเสริมการออกกำลังกายขึ้นมาให้กับชุมชน และได้จัดหาสถานที่ให้จัดกิจกรรมกันเป็นประจำ นั้นก็คือ ลานกว้างของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโนนสูง ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเทศบาลโนนสูง บุคคลที่มาเข้าร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่จะเป็นคนในชุมชน เพศหญิง วัยกลางคน จำนวน 30-40 คน การประชาสัมพันธ์โครงการชาวบ้านในหมู่บ้านมักจะชักชวนกันปากต่อปากเสียมากกว่า เมื่อว่างจากหน้าที่การงานช่วงเย็นก็มักจะมาออกกำลังกายกัน บางวันจึงมีผู้มาเข้าร่วมน้อยและบางวันจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
>>>นอกจากคุณสุภาพร แล้วยังมีผู้นำเต้นอีก 2 ท่านคือ คุณคำปน หินพรม และ คุณสุรีพร สิงอุปโป อายุ 46 ปี ส่วนท่าเต้นที่นำมาใช้ทำกิจกรรมนั้นก็ดูจากอินเตอร์เน็ตและนำมาฝึกฝนกันเองภายในชุมชน
วัตถุประสงค์หลักของโครงการคือ ต้องการให้คนในชุมชนมีสุขภาพอนามัยที่แข็งแรง ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และทำกิจกรรมร่วมกันภายในชุมชน 

กล้วยตากสร้างอาชีพ บ้านข้าวสาร ตำบลโนนสูง จังหวัดอุดรธานี




กล้วยตากสร้างอาชีพ บ้านข้าวสาร ตำบลโนนสูง จังหวัดอุดรธานี
>>>ร้อยโทลิขิต สามะโท อายุ 61 ปี และแม่ลออตา สามะโท อายุ 55 ปี บ้านข้าวสาร ตำบลโนนสูง จังหวัดอุดรธานี สร้างรายได้และสร้างอาชีพจากการแปรรูปกล้วยน้ำว้าสู่กล้วยตากแสงธรรมชาติ กล้วยนำว้าเป็นกล้วยที่มีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย ร้อยโทลิขิตจึงมองหาแนวทางในการสร้างอาชีพจากพืชผลที่มีในครัวเรือน ร้อยโทลิขิต กล่าวว่า แต่ก่อนที่บ้านร้อยโทลิขิตมีต้นกล้วยน้ำว้าจำนวนมาก ออกผลมากมายหลายสิบเครือ จะนำมาบริโภคก็รับประทานกันเองภายในครัวเรือนไม่หมด จึงคิดนำกล้วยน้ำว้าออกจำหน่าย เมื่อนำไปจำหน่ายได้ราคาที่ต่ำมาก จึงเกิดข้อสงสัยว่าเวลากล้วยน้ำว้าเรานำไปขายราคาถูกแต่พอเราซื้อจะราคาแพง จึงคิดหาวิธีที่จะขายกล้วยน้ำว้าในราคาที่สูงขึ้น ใช้อินเตอร์เน็ตในการศึกษาหาข้อมูล และมองเห็นสภาพแวดล้อมในชุมชนแล้วพบว่า เมื่อกล้วยน้ำว้ามีมากแล้วสภาพแวดล้อมหรือแดดธรรมชาติก็เหมาะสมที่จะทำกล้วยตาก ช่วงแรกจะจำหน่ายร้านค้าภายในชุมชน เมื่อกระแสตอบรับดีมีคนเข้ามาสั่งซื้อจำนวนมากจึงคิดทำเป็นธุรกิจภายในครัวเรือนอย่างจริงจัง
>>>การทำกล้วยตากของร้อยโทลิขิตและแม่ลออตาจะใช้วิธีการทำแบบธรรมชาติโดย เมื่อกล้วยที่บ้านออกผลไม่ทันต่อความต้องการจึงไปรับกล้วยน้ำว้ามาจากตลาดเมืองทองอุดรธานี แล้วนำกล้วยมาบ่มโดยใช้ผ้าขาวคลุมเป็นเวลา 7 วัน เมื่อกล้วยสุกงอมจะนำมาปลอกเปลือกนำออกตากอีก 7 วัน ซึ่งตากไว้ที่โรงตากและตะแกรงเหล็ก เมื่อครบ 7 วัน จะเก็บกล้วยตากมาทับโดยวัสดุที่นำมาทับกล้วยตากทำจากไม้คลุมด้วยพลาสติกที่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายเมื่อทับเสร็จนำไปตากแดดเพิ่มอีก 4 วัน เมื่อครบกำหนดจะเก็บกล้วยตากมาตรวจสอบคัดแยกคุณภาพ กล้วยตากที่ไม่ได้คุณภาพจะเก็บไว้รับประทานเองและแตกจ่ายฟรีให้กับเพื่อนบ้านในชุมชน ส่วนกล้วยตากที่มีคุณภาพจะนำแพ็คใส่กล่องใสเพื่อจำหน่าย
>>>ราคาปลีกกล่องละ 10 บาท ราคาส่ง 8 บาท และกล่องใหญ่ 1 กิโลกรัม 100 บาท สถานที่จัดจำหน่ายคือร้านค้าในชุมชน ค่ายทหาร และขายออนไลน์ สร้างรายได้ถึง 3000 บาทต่อสัปดาห์

วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2561

กิจกรรมโนนสูง 5

วันที่ 20 ก.พ 61 
#งานป้องกันเเละบรรเทาสาธารณภัย 
#เทศบาลเมืองโนนสูง-น้ำคำ
ให้ความรู้และทักษะพื้นฐานในการป้องกันเเละระงับอัคคียภัยเเละการเตรียมความพร้อมกรณีฉุกเฉิน ให้กับพนักงานบุคลากร บริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปเเตซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.อุดรธานี



กิจกรรมโนนสูง 4

วันที่ 22 ก.พ 61 
#งานป้องกันเเละบรรเทาสาธารณภัย 
#เทศบาลเมืองโนนสูง-น้ำคำ
ให้ความรู้และทักษะพื้นฐานในการป้องกันเเละระงับอัคคียภัยเเละการเตรียมความพร้อมกรณีฉุกเฉิน ให้กับพนักงานบุคลากร บริษัท ตั้งฮั่วไถ่(1999) จำกัด ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี






ตะกร้าสานมาจากเส้นใยพลาสติก ชุมชนหนองสร้างคำ หมู่ที่7 ตำบลโนนสูง


ตะกร้าพลาสติก
ตะกร้าสานมาจากเส้นใยพลาสติก คนในหมู่บ้านจะทำไปวัด ช่วงเทศกาล บุญเดือนสี่
หรือที่เรียกว่าบุญพเวสสันดร (บุญมหาชาติ) ในช่วงเดือนสี่ตามปฏิทิน นับตามจันทรคติ หรือเดือนสามตามหลักสากล คือเดือน มีนาคม ชาวบ้านจะพากันสานตะกร้าไปใช้ในการจับฉลาก หรือสอยดาว ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ถูกจัดขึ้นภายในงาน ฉลากล่ะ 20 บาท ถ้าขาย จะขายในราคา 60 บาท นอกจากตะกร้าแล้วยังมีสิ่งของอย่างอื่นอีกที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง เช่น สาด พัด เป็นต้อน นอกจากนี้แล้วก็ยังมีของใช้ในบ้านอย่างอื่นอีกที่ซื้อมาใส่เพิ่ม และสิ่งของที่ผู้ใจบุญนำมาบริจาคเพื่อใช้ในการสอยดาว
แม่สวย อินอุ่นโชติ อายุ 63 ปี ชาวชุมชนหนองสร้างคำ หมู่ที่7 ตำบลโนนสูง กล่าวว่า ตนได้สานตะกร้าเช่นนี้มาประมาณ 2-3 ปีแล้ว ในเวลาว่างก็จะมานั่งสาน ส่วนช่วงที่ใกล้เทศกาล ก็จะมีชาวบ้านคนอื่มมารวมตัวกันสาน ทั้งที่บ้านหรือที่วัด



ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์โครงการหลวง 9101 ชุมชนโนนสูง


ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์โครงการหลวง 9101 ชุมชนโนนสูง
ชุมชนบ้านสร้างคำหมู่ที่ 7 เทศบาลโนนสูง รวมกลุ่มสหกิจชุมชนบ้านหนองสร้างคำและกลุ่มผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือน เข้าร่วมกลุ่มโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยโครงการ 9101 ได้รับพระราชทานโครงการจากในหลวงรัชกาลที่ ๙ เมื่อปี พ.. 2558  ด้วยงบประมาณการดำเนินโครงการ 2 พันล้านบาท  เพื่อให้ประชาชนในชุมชนมีอาหารสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคและบริโภคในครัวเรือน เพื่อให้คนในชุมชนเกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องเกษตรอินทรีย์ที่ไร้สารพิษและนำไปพัฒนาอย่างยั่งยืน โดนมีผู้นำโครงการ นางอนัญญา ถาธิราช อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองสร้างคำ คุณอนัญญาเล่าว่า โครงการหลวง 9101 เน้นการปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ที่ไร้สารพิษและนำผลผลิตที่ได้มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น น้ำยาล้างจาน ยาสระผม ครีมนวดผม ที่ทำจากสมุนไพรในชุมชน โดยแรกเริ่มโครงการหน่วยงานจัดส่งปุ๋ยอินทรีย์ 9101 มาให้กับชุมชน จำนวน 10,000 กระสอบ คุณอนัญญารวบร่วมคนในชุมชน และกลุ่มสหกิจชุมชน จัดทำศูนย์การเรียนรู้พืชเกษตรอินทรีย์ โดยการปลูกพืชที่มีอายุสั้น เช่น ขึ้นฉ่าย ถั่วฝักยาว และมะเขือเทศราชา โดยการปลูกพืชกับพื้นดินและปลูกพืชเหนือดิน การปลูกพืชเหนือดินคือ การนำพืชที่เราเพาะเลี้ยงในดินจนมีรากอ่อน ย้ายมาปลูกบนดินที่อยู่ในกระสอบที่มีการระบายอากาศและน้ำได้ดี สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก โดยมีเพาะพันธุ์พืชโดยคนในชุมชนและแจกจ่ายให้กับคนในชุมชนอีกด้วยผลผลิตที่ได้ในโครงการจะเก็บไว้กินและใช้ในชุมชนหากเหลือก็จะนำส่งออกขายนำเงินมาพัฒนาโครงการ พืชที่ปลูกแต่ละชนิดจะเป็นพืชที่ไร้สารพิษอย่างแท้จริง ไม่มียาฆ่าแมลง ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการกำจัดวัชพืชคือ นำสะเดามาหมักกับเหล้าขาวและยาสูบนำมาฉีดพ่นเพื่อกำจัดแมลงและวัชพืชได้  และมีการจัดการอบรมวิชาชีพจัดทำผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือนให้กับคนในชุมชนทุกๆเดือน และเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ใด้ให้บุคคลที่สนใจในด้านเกษตรอินทรีย์มาศึกษาอีกด้วย





ศูนย์อนุรักษ์กลองยาวพื้นบ้าน


ศูนย์อนุรักษ์กลองยาวพื้นบ้าน บ้านโนนสูง



กลองยาว เครื่องดนตรีพื้นบ้านของไทย ที่สามารถพบได้ในหลากหลายพื้นที่ของประเทศ กลองยาวมีความผูกพันกับคนไทยมาตั้งแต่อดีต เนื่องจากผู้คนจะนำเครื่องดนตรีชนิดนี้มาเล่นในงานประเพณีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานประเพณีบุญบั้งไฟ ขบวนแห่นาค ขบวนทอดผ้าป่า ขบวนขันหมาก หรืองานรื่นเริงอื่นๆ แต่ในปัจจุบัน วิถีการใช้ชีวิตของคนในยุคนี้ต่างจากอดีต เนื่องจากวัฒนธรรมในปัจจุบันถูกผสมผสานจากหลากหลายพื้นที่ทั่วโลกจึงทำให้บทบาทของกลองยาวลดลง                                                                  
ชุมชนบ้านหนองสร้างคำ  หมู่ที่ 7 ตำบลโนนสูง จึงได้เปิด ศูนย์อนุรักษ์กลองยาวพื้นบ้าน ขึ้นมา เพื่อให้คนในชุมชนได้รู้จักและเรียนรู้ศิลปะดนตรีพื้นบ้านของไทย และเป็นการอนุรักษ์เครื่องดนตรีไทยไว้ให้คนรุ่นหลังได้รู้จักคุณค่าและรักษาไว้ โดยมีคุณตาเดช  อินอุ่นโชติ อายุ 66 ปี เป็นผู้ดูแลศูนย์อนุรักษ์กลองยาวพื้นบ้านแห่งนี้ คุณตาเดชเล่าว่า ศูนย์อนุรักษ์แห่งนี้เปิดมาได้ 20 กว่าปีแล้ว เนื่องจากกลัวว่าในอนาคตวัฒนธรรมการตีกลองยาวมันจะสูญหาย จึงเปิดเพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ให้กับคนรุ่นหลังได้ดูได้ชม กลองยาวในศูนย์แห่งนี้จะมีทั้งซื้อมาไว้เองและได้รับบริจาคจากคนที่ต้องการอนุรักษ์เครื่องดนตรีไทย  ปัจจุบันจะมีเยาวชนในหมู่บ้านประมาณ 20- 30 คนมาร่วมซ้อมร่วมตีเพื่อใช้ตอนประเพณีบุญบั้งไฟ และตามงานบุญต่างๆ และที่ตำบลโนนสูงแห่งนี้จะมีการแข่งตีกลองยาวของแต่ละหมูบ้านขึ้นทุกปีในช่วงเทศกาลบุญบั้งไฟ

โครงการการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในชุมชน แอโรบิคชุมชนโนนสูง จังหวัดอุดรธานี

โครงการการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในชุมชน แอโรบิคชุมชนโนนสูง จังหวัดอุดรธานี >>>โครงการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในชุมชนโนนสูงเป็...